1.ตรวจเช็คพื้นที่ที่จะทำการวางหรือติดตั้งมอเตอร์ว่ามีความชื้นหรือมีน้ำหรือไม่
ความชื้นและน้ำต้องอยู่ห่างจากตัวมอเตอร์ สิ่งที่ต้องคำนึงคือ พื้นที่ติดตั้งจึงจำเป็นต้องห่างไกลจากความชื้นและน้ำ
เพื่อที่จะช่วยลดการเกิดสนิมของ Motor รวมไปถึงลดการสั่นสะเทือนของตัวมอเตอร์ขั้วต่อไฟฟ้าก็จะแน่นอยู่เสมอ
2.ตรวจเช็คความสะอาดของมอเตอร์
หมั่นเช็ค Motor และตรวจดูว่าใบพัดมอเตอร์หรือมีส่วนประกอบต่างๆของตัวเครื่องมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรก
เกาะติดอยู่หรือไม่หากมีควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก่อนการใช้งานเพื่อช่วยให้มอเตอร์ระบายความร้อนได้ดี
เพราะถ้าตัวมอเตอร์ร้อนจะทำให้ค่าไฟแพงมาก
3.ตรวจเช็คความแน่นของขั้วไฟฟ้าตามจุดต่างๆว่ามีความแน่นเพียงพอหรือไม่
หากขั้วไฟฟ้าหลวมไม่แน่นพอ เมื่อใช้งานไปจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ที่จุดต่อ
ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมในจุดต่อที่หลวม จะทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานที่ระดับแรงดันต่ำกว่าพิกัด
ส่งผลให้เกิดความร้อนในตัวมอเตอร์ และอาจทำให้มอเตอร์เสียหาย
4.ตรวจเช็คขดลวดมอเตอร์อยู่สม่ำเสมอ
โดยตรวจเช็กฉนวนที่เคลือบอยู่และทำการเคลือบฉนวนซ้ำ เพื่อลดต้นทุนในการเปลี่ยนขดลวดมอเตอร์ใหม่
ซึ่งมีต้นทุนสูงมากกว่าการเคลือบฉนวนซ้ำ
5.ตรวจเช็คตลับลูกปืนก่อนที่จะเสีย
โดยทำการเปลี่ยนจาระบีเพื่อช่วยให้การหล่อลื่นดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับ
เพลาของมอเตอร์และชิ้นส่วนอื่นๆ





