Day: August 2, 2024

ความแตกต่างระหว่างมอเตอร์

มอเตอร์อลูมิเนียม วัสดุโครงมอเตอร์ที่ใช้เป็นอลูมิเนียม มอเตอร์เหล็กหล่อ โครงมอเตอร์ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุเหล็กหล่อ ข้อดี คือ มีน้ำหนักเบาประสิทธิภาพการกระจายความร้อนที่ดี การนำความร้อนได้ดี สามารถหล่อขึ้นรูปได้ดีและมีความยืดหยุ่น สูงกว่าเหล็ก เสียงรบกวนต่ำ เสถียรภาพในการทำงานที่ดี ข้อดี คือ มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงกดดันภายนอกได้สูง ราคาต่ำ สามารถติดตั้งในสถานที่ที่มีแรงขับเคลื่อนสูงและ สภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ความแตกต่างข้อดีและข้อเสียระหว่างมอเตอร์อลูมิเนียมและมอเตอร์เหล็กหล่อ นั้นมีมากกว่าที่กล่าวไว้ข้างต้นจากการทำงานจริงและการใช้งาน เราสามารถค้นพบความแตกต่างและข้อดี/ข้อเสีย ระหว่างสิ่งเหล่านั้นได้มากขึ้น เพื่อเลือกมอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในอุปกรณ์ของเราเอง  • มอเตอร์อลูมิเนียม 1. มอเตอร์อลูมิเนียมโดยทั่วไปจะใช้กับมอเตอร์กระแสตรงที่มีความเสถียรและมีความเร็วในการทำงานสูง 2. ติดตั้งในตำแหน่งที่มีความต้องการน้อย อลูมิเนียมมีความอ่อน   ดังนั้น เมื่อเทียบกับเคสเหล็กหล่อ เคสอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่ามีค่าการนำความร้อนที่ดีสามารถหล่อขึ้นรูปได้ มีความเป็นพลาสติกที่ดี การยืดตัวสูงกว่าเหล็ก ราคาสูงกว่า และความแข็งต่ำกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีความสูงตรงกลางค่อนข้างสูง จะไม่ใช้เคสอลูมิเนียมเนื่องจากความแข็งแรงทางกลของอลูมิเนียมไม่เพียงพอ  • มอเตอร์เหล็กหล่อ มีพลังมากกว่าและติดตั้งในสถานที่ที่มีแรงขับเคลื่อนมากกว่าและมีสภาพแวดล้อมไม่ดี ความเสถียรไม่ดีเท่าอลูมิเนียม มีข้อควรพิจารณาหลายประการในการใช้มอเตอร์อะลูมิเนียม เหมาะสำหรับมอเตอร์ขนาดเล็ก    1. อลูมิเนียมมีความหนาแน่นน้อยกว่าซึ่งช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของตัวเครื่อง  2. อลูมิเนียมมีค่าการนำความร้อนได้ดีกว่าเหล็ก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการกระจายความร้อนของมอเตอร์  3. อลูมิเนียมมีความแข็งแรงต่ำซึ่งเอื้อต่อการแปรรูปและการผลิตพร้อมทั้งประหยัดต้นทุนการประมวลผล 

เทคนิคดีๆ การดูแลรักษามอเตอร์

1.ตรวจเช็คพื้นที่ที่จะทำการวางหรือติดตั้งมอเตอร์ว่ามีความชื้นหรือมีน้ำหรือไม่ ความชื้นและน้ำต้องอยู่ห่างจากตัวมอเตอร์ สิ่งที่ต้องคำนึงคือ พื้นที่ติดตั้งจึงจำเป็นต้องห่างไกลจากความชื้นและน้ำเพื่อที่จะช่วยลดการเกิดสนิมของ Motor รวมไปถึงลดการสั่นสะเทือนของตัวมอเตอร์ขั้วต่อไฟฟ้าก็จะแน่นอยู่เสมอ 2.ตรวจเช็คความสะอาดของมอเตอร์ หมั่นเช็ค Motor และตรวจดูว่าใบพัดมอเตอร์หรือมีส่วนประกอบต่างๆของตัวเครื่องมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรก เกาะติดอยู่หรือไม่หากมีควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก่อนการใช้งานเพื่อช่วยให้มอเตอร์ระบายความร้อนได้ดี เพราะถ้าตัวมอเตอร์ร้อนจะทำให้ค่าไฟแพงมาก 3.ตรวจเช็คความแน่นของขั้วไฟฟ้าตามจุดต่างๆว่ามีความแน่นเพียงพอหรือไม่ หากขั้วไฟฟ้าหลวมไม่แน่นพอ เมื่อใช้งานไปจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ที่จุดต่อ ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมในจุดต่อที่หลวม จะทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานที่ระดับแรงดันต่ำกว่าพิกัด ส่งผลให้เกิดความร้อนในตัวมอเตอร์ และอาจทำให้มอเตอร์เสียหาย 4.ตรวจเช็คขดลวดมอเตอร์อยู่สม่ำเสมอ โดยตรวจเช็กฉนวนที่เคลือบอยู่และทำการเคลือบฉนวนซ้ำ เพื่อลดต้นทุนในการเปลี่ยนขดลวดมอเตอร์ใหม่ซึ่งมีต้นทุนสูงมากกว่าการเคลือบฉนวนซ้ำ 5.ตรวจเช็คตลับลูกปืนก่อนที่จะเสีย โดยทำการเปลี่ยนจาระบีเพื่อช่วยให้การหล่อลื่นดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับ เพลาของมอเตอร์และชิ้นส่วนอื่นๆ

ระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น

วิธีป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรภายในโรงงาน